โดยทั่วไปแล้ว แหล่งน้ำดื่มทั่วไปบนโลกคือน้ำฝน นอกจากนี้ยังได้รับการพิจารณาว่าเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดเนื่องจากมีปริมาณกรดและแร่ธาตุต่ำ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายคนเก็บน้ำฝนไว้เพื่อทำความสะอาดร่างกายใช้ทำสวนในฤดูหนาวและที่สำคัญกว่านั้นคือ ดับกระหายในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรถือว่าน้ำฝนเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำหลัก 

เนื่องจากน้ำฝนจับสิ่งสกปรกและสารมลพิษออกจากชั้นบรรยากาศ ด้วยเหตุนี้ การทำน้ำฝนให้บริสุทธิ์ก่อนจึงจะสามารถนำมาใช้บริโภคได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณตัดสินใจที่จะใช้น้ำฝนเพื่อดื่ม ด้านล่างนี้คือวิธีที่จะทำให้ปลอดภัย:

1. ติดตั้งอุปกรณ์ล้างและตัวกรอง

วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการทำให้น้ำฝนบริสุทธิ์และปลอดภัยสำหรับการดื่มคือการติดตั้งตัวกรอง อุปกรณ์ล้างน้ำ หรือตะแกรง ควรติดตั้งอุปกรณ์ล้างเพื่อป้องกันมลพิษ เช่น ใบไม้ ทราย มูลนก หรือแม้แต่กิ่งไม้ ก่อนที่น้ำฝนจะไหลผ่านท่อจ่ายน้ำ 

เมื่อคุณใช้ถังเก็บน้ำเพื่อเก็บน้ำฝน คุณควรใช้ตัวกรองเพื่อให้แน่ใจว่าสารมลพิษจะไม่ตกตะกอนที่ด้านล่างของถัง ดังนั้น หากคุณต้องการได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบการกรองของคุณ ให้เลือกถังเก็บน้ำฝนคุณภาพสูง ด้วยวิธีนี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่าน้ำฝนที่เก็บไว้ในถังเก็บน้ำนั้นปลอดภัยสำหรับการดื่ม

2. ใช้การบำบัดคลอรีน

แม้ว่าตัวกรองจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดมลพิษออกจากน้ำฝนที่เก็บเกี่ยว แต่จริงๆ แล้วตัวกรองไม่ได้กำจัดสารทั้งหมดออกไป ดังนั้น หากคุณต้องการให้น้ำฝนปลอดภัยสำหรับการดื่ม การใช้คลอรีนอาจเป็นแนวคิดที่ดี ให้เติมคลอรีน 2.3 ออนซ์ต่อน้ำ 1,000 แกลลอนเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น 

โดยปกติ คลอรีนจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดโรคที่เกิดจากน้ำ เช่น โรคตับอักเสบ อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม การบำบัดน้ำฝนด้วยคลอรีนควรทำด้วยความระมัดระวัง นั่นเป็นเพราะมันมีปฏิกิริยาสูงและสามารถรวมกับสารอินทรีย์อื่น ๆ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 

3. ใช้แสงอัลตราไวโอเลต

อีกวิธีหนึ่งในการทำให้น้ำฝนบริสุทธิ์เพื่อการบริโภคที่ปลอดภัยคือการใช้แสงอัลตราไวโอเลต เมื่อน้ำฝนไหลผ่านแสงยูวี จะเกิดการหยุดชะงักของการสร้างพันธุกรรมของจุลินทรีย์ ซึ่งทำให้จุลินทรีย์เหล่านี้ไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้ ส่งผลให้คุณสามารถฆ่าเชื้อในน้ำและทำให้ดื่มได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากแสงยูวีในการฆ่าเชื้อ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปลี่ยนหลอดไฟยูวีหลังจากใช้งานไปแล้ว 9,000 ชั่วโมง (ประมาณหนึ่งปี) นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าหลอดไฟมีประสิทธิผล อย่าลืมตรวจสอบและทำความสะอาดตัวเครื่องกระจกเป็นครั้งคราว

• แนะนำการทำ Yield Farming บน Solana รับผลตอบแทนสูง
• LG Energy Solution ระดมทุน 12.75 ล้านล้านวอนในการเสนอขายหุ้น IPO

4. การพาสเจอร์ไรซ์จากแสงอาทิตย์

การทำให้น้ำฝนปลอดภัยต่อการบริโภคสามารถทำได้โดยใช้การพาสเจอร์ไรส์ด้วยแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับวิธีการทำให้บริสุทธิ์อื่นๆ ซึ่งอาจต้องใช้แรงงานจำนวนมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น  ในการดำเนินการวิธีการพาสเจอร์ไรส์ด้วยแสงอาทิตย์ ควรคำนึงถึงขั้นตอนต่อไปนี้ตั้งแต่เริ่มต้น:

• เติมน้ำฝนลงในถุง ซิปล็อค 
• วางถุงบนกระดาษฟอยล์อลูมิเนียม 
• ปล่อยให้ถุงเก็บความร้อนไว้ใต้แสงแดดเป็นเวลาหลายชั่วโมง อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 160 องศาฟาเรนไฮต์หรือสูงกว่านั้น 

อย่างที่คุณเห็น การใช้วิธีการพาสเจอร์ไรส์ด้วยแสงอาทิตย์อาจค่อนข้างท้าทาย แต่ก็สามารถกำจัดแบคทีเรียที่เกิดจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

5. ใช้กระบวนการกลั่น

หากคุณกำลังมองหาวิธีอื่นในการทำให้น้ำฝนปลอดภัยสำหรับการดื่ม คุณอาจต้องพิจารณากระบวนการกลั่น เป็นกระบวนการที่น้ำฝนถูกต้มและสิ่งสกปรกสามารถระเหยได้ จากนั้นจึงเก็บน้ำกลั่นไว้ในภาชนะ 

โดยทั่วไป การกลั่นถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำให้น้ำบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้ว่ากระบวนการนี้สามารถกำจัดสารเกือบทั้งหมดออกจากน้ำฝน แต่ก็ไม่สามารถกำจัดสิ่งที่เรียกว่าสารเคมีอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เช่น เบนซีน โทลูอีน เมทิลีนคลอไรด์ และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น ควรใช้ตัวกรองคาร์บอนในกระบวนการกลั่นเพื่อขจัด VOCs

โดยรวมแล้วน้ำฝนนั้นฟรีเพราะมาจากฝน และคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายก่อนจึงจะสามารถเก็บเกี่ยวและนำไปใช้ในครัวเรือนได้ นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำหมุนเวียนแล้ว ยังใช้ได้นานอีกด้วย แต่เช่นเดียวกับน้ำประปาที่มาจากก๊อกน้ำของคุณ คุณต้องฆ่าเชื้อหรือทำให้บริสุทธิ์เพื่อให้ปลอดภัยสำหรับการบริโภค

ติดตามเรื่องราวเคล็ดลับดีๆได้ที่ statusvision.com อัพเดตทุกสัปดาห์